Detail
นฤพน ไวลด์ แข้งลูกครึ่งของ สุพรรณบุรี เอฟซี ที่ก่อนหน้านี้เขาหายจากสนามไปพักใหญ่กับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เนื่องจากแย่งตำแหน่งตัวจริงในทีมไม่ได้ ก่อนจะก้าวมาเป็นแข้งตัวหลักระเบิดฟอร์มช่วยทัพ “ช้างศึกยุทธหัตถี” ลุยศึกฤดูกาล 2018 จากผลงานที่ผ่านมาเขาพอใจมากน้อยแค่ไหน ติดตามได้ที่นี่.....
SPFC : หลังจากย้ายมาอยู่กับสุพรรณก็เริ่มมีโอกาสลงมากขึ้น ช่วยเรียกความมั่นใจเรากลับมามากแค่ไหน?
นฤพน : เรียกความมั่นใจกลับมาได้เยอะเลย เพราะได้ลงเล่นสม่ำเสมอ เพื่อนร่วมทีม และสตาฟฟ์ทุกคนซัพพอร์ทผมเสมอ บรรยากาศในการซ้อมค่อนข้างดี ทำให้การเล่นบอลสนุก และช่วยสร้างความมั่นใจ
SPFC : มีแอบหวั่นไหม ว่าผลงานอาจจะยังไม่โอเค เพราะเราก็ร้างสนามไปนาน?
นฤพน : ก่อนที่จะมาก็มีคุยกับทางโค้ชไว้แล้วว่าต้องการใช้ผมหรือเปล่า เขาก็บอกว่าต้องการใช้ ทุกคนในทีมมีความสัมพันธ์ตลอด มันขึ้นอยู่กับเราว่าพิสูจน์ฟอร์มการเล่นได้ไหม แต่ตอนผมมา ผมคิดว่าผมต้องมาลงเล่นอยู่แล้ว
SPFC : ย้ายเข้ามาก็กลายเป็นตัวหลักเลย ถือว่าเป็นไปตามที่เราคาดไหม?
นฤพน : ก็เป็นนะครับ อย่างที่ผมบอกไม่ว่าผมจะอยู่ที่ไหนผมก็มีเป้าหมายเป็นตัวจริงให้ได้ตลอด แม้จะไม่ได้ลงเล่นตามที่คาดไว้
SPFC : ย้ายไปเล่นมาแทบจะทุกภาคในประเทศไทยแล้ว สุพรรณบุรี แตกต่างกับที่อื่นยังไงบ้าง?
นฤพน : ทุกทีมมีระบบการทำงานเป็นของตัวเอง ที่สุพรรณบุรี เขาจัดการเขาเป๊ะมาก ดูแลผู้เล่นทั้งในและนอกสนามเป็นอย่างดี
SPFC : ช่วงที่อยู่กับ บุรีรัมย์ ต้องบอกว่าโอกาสน้อยมาก รู้สึกท้อเหมือนช่วงที่แย่ๆกับ สงขลา หรือทีมก่อนๆไหม?
นฤพน : มันก็เป็นปกติอยู่แล้ว มีช่วงที่ท้อว่าทำไมไม่ค่อยเล่น แอบคิดว่าเราจะได้โอกาสไหม แต่ก็พยายามทำงานหนักเสมอ เต็มที่ เข้ายิมเสริมความแกร่ง ยังไงก็ต้องพัฒนาให้แกร่งไปเรื่อยๆ แม้เขาจะไม่เลือกใช้ก็ตาม
SPFC : ตอนแรกคิดมั้ยว่าการย้ายไปทีมใหญ่ๆแบบบุรีรัมย์ อาจจะไม่ได้รับโอกาส แล้วทำไมถึงตัดสินใจย้ายไป?
นฤพน : ต้องพูดตรงๆเลยว่าบุรีรัมย์เป็นทีมแรกที่ติดต่อผมมา เขาเป็นทีมที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ผมก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะผมอยากไปพิสูจน์กับทีมที่มีนักเตะระดับทีมชาติ และสโมสรที่ได้ไปเล่นเอเอฟซีมาแล้ว ผมก็อยากรู้ว่าสโมสรแบบนี้เป็นยังไงบ้าง ทั้งสนามแข่ง ทั้งการดูแลผู้เล่น การฝึกซ้อมที่เข้มข้น อยากจะสัมผัสว่าเป็นยังไง
SPFC : หนึ่งแชมป์กับ บุรีรัมย์ แต่เหมือนไม่ค่อยมีส่วนรวมเลย พอใจหรือภูมิใจมั้ยกับแชมป์แรกนับตั้งแต่เล่นในประเทศไทย?
นฤพน : พอใจไหมมันก็ดีนะ เราได้เป็นแชมป์ เรามีส่วนร่วมในการช่วยเพื่อนฝึกซ้อม ซัพพอร์ตเพื่อน แต่ถ้าใจจริงแล้วก็อยากจะช่วยทีมมากกว่านี้
SPFC : เป็นเพื่อนกับกอมฟาลิอุสตั้งแต่อยู่ฮอลแลนด์ ตอนเจอกันครั้งแรกเป็นยังไงบ้าง?
นฤพน : ตอนที่เจอครั้งแรก ผมก็จำไม่ได้นะ เพราะเขาไว้หนวด ไว้เครา ตัดผม ตอนเด็กๆที่เล่นด้วยกัน เขาไม่มีหนวดและผมก็ฟูๆ แต่พอคุยไปคุยมา เขาบอกเคยเล่นที่ฮอลแลนด์นะ ก็เลยถามว่าเล่นช่วงไหน เลยเอารูปมาให้ดู ก็เลยจำได้ แต่เขาเป็นรุ่นพี่หนึ่งปีนะ
SPFC : ได้แนะนำเขาในการเล่นที่ประเทศไทยยังไงบ้าง?
นฤพน : ผมก็บอกว่าลีกที่เมืองไทยน่าจะเข้มข้นกว่าอินโดนีเซียนะ ระดับฟุตบอลน่าจะดีกว่า และก็บอกเมืองไทยไม่เหมือนประเทศอื่นนะ หลายๆอย่าง แต่ก็ให้เขาทำให้เต็มที่และพิสูจน์ตัวเองให้ได้ เพราะเวลาย้ายไปเล่นที่ใหม่ ก็เหมือนว่าเราต้องเริ่มนับหนึ่งเสมอ
SPFC : ย้ายมาร่วมงานกับสุพรรณบุรีปีนี้ เกมรับดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คิดว่าเป็นเพราะเราด้วยหรือเปล่า?
นฤพน : ผมคิดว่าเป็นความทุ่มเทของผู้เล่น เปิดใจรับระบบรับความเข้าใจที่สตาฟฟ์วางแผนไว้ อีกอย่างคือมีผู้เล่นที่เข้าใจแท็กติคที่โค้ชต้องการ ต่างชาติก็มีประสบการณ์เยอะ ทุกคนสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ดีเยี่ยม
SPFC : โค้ชได้กำชับอะไรเป็นพิเศษมั้ย เพราะเขาปรับให้มาเล่นเป็นกองหลังแบบเต็มตัว?
นฤพน : เพราะว่าผมพูดทั้งไทยและอังกฤษได้ ก็ให้เราช่วยสั่งเกมและกระตุ้นเพื่อน ให้ทุกคนรักษาวินัยในเกมให้ได้ และก็เน้นให้มีสมาธิตลอด 90 นาที ทุกคนต้องรู้หน้าที่เวลาเล่นเกมรับ
SPFC : เกมที่แล้วเหมือนจะได้เล่นกลางรับตำแหน่งถนัดเป็นครั้งแรกกับสุพรรณบุรี พูดถึงเกมนี้หน่อย?
นฤพน : ก่อนหน้านั้นที่บุกไปเสมอพัทยา ยูไนเต็ด ก็ได้เล่นมาแล้ว ก็ได้กลับมาเล่นในตัวเองถนัดให้เกิดความชิน พอมาเล่นในเกมที่เจอบุรีรัมย์ มันก็ง่ายขึ้น ได้เข้าตำแหน่งตัวเอง ได้จังหวะตัวเองกลับมา และได้กลับมาเล่นตำแหน่งถนัดด้วย ก็เล่นสบายกว่าเล่นเซ็นเตอร์
SPFC : มีกดดันบ้างมั้ย เพราะได้เจอกับทีมเก่าอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด?
นฤพน : ไม่เลยครับ ทุกคนรู้ว่าต้องทำอะไร เราโฟกัสแค่ว่าจุดแข็ง จุดอ่อนเขาอยู่ตรงไหน เราก็โฟกัสแผนของเรา ที่โค้ชวางมา และทุกคนมั่นใจกับผลงานที่ผ่านมาค่อนข้างดี ทำให้บุรีรัมย์ยากาศในทีมฟิลลิ่งดีไปด้วย
SPFC : นับตั้งแต่เปิดฤดูกาล คิดว่ามีจุดไหนที่เราต้องปรับปรุง?
นฤพน : ผมคิดว่าในเรื่องของการเติมเกม แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับระบบด้วยว่าแต่ละเกมโค้ชต้องการให้ทำอะไรบ้าง แต่เรื่องเกมรุกก็อยากพัฒนาให้ช่วยสร้างเกม และอยากเข้าบอลให้ดุดันขึ้น
SPFC : ในส่วนของทีมล่ะ คิดว่าตอนนี้ขาดอะไร?
นฤพน : อันนี้ให้ทางสตาฟฟ์เขาตัดสินใจดีกว่า ผมว่าทุกทีมมีจุดพัฒนาอยู่แล้ว ถ้าเราไม่ปรับหรือพัฒนา คู่แข่งก็จะจับจุดเราได้ ต้องพัฒนาทุกเกม พัฒนาตัวเองด้วย
SPFC : เป้าหมายในปีนี้ ตั้งเป้าไว้ยังไงบ้าง?
นฤพน : ถ้าลึกๆอยากให้ไปท็อปทรี ผมอยากให้ สุพรรณบุรี เอฟซีไปเล่นเอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีกให้ได้ อันนั้นเป็นเป้าหมายของสโมสรด้วย ผมเคยนั่งคุยกับพี่ๆในทีม และพี่ๆที่เคยไปเล่นรายการนี้ เขาทำได้อยู่แล้ว เขารู้ว่าจะไปจุดนั้นต้องมีอะไรบ้าง และถ้าเราช่วยกันเล่นแบบนี้ตลอด ไม่ว่าเจอทีมไหนเราก็สู้ได้ ทั้งในบ้านและนอกบ้านครับ
|